BITDEFENDER TECHNOLOGY STRENGTHS
ด้วยเทคโนโลยีของ Bitdefender ในการตรวจจบและป้องกันไวรัสจึงได้รับการรับรองจากสถาบันชั้นนำาทางด้านการตรวจสอบโซลูชั่นแอนตี้ไวรัสโดย AV-TEST(จากประเทศเยอรมันนี) , AV-Comparative (จากประเทศออสเตรีย) ว่ามีประสิทธิภาพในการตรวจจบไวรัสได้เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากการป้องกันไวรัสที่ได้รับการการันตีจากสถาบันชั้นนำจาก AV-TEST และ AV-COMPARATIVE แล้วนั้น ยังได้รับการยอมรับในด้าน ประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมโดยที่ไม่ส่งผลกระทบกับการทำงานของผู้ใช้งาน ทที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการอัพเดทที่รวดเร็ว เพื่อป้องกันปัญหาจาก ไวรัสใหม่ๆ ที่จะตามมา
Bitdefender GravityZone มีเทคโนโลยีการจัดการภายใต้การทำงานในรูปแบบของ One Global Protective Network โดยทำงานผ่านโปรแกรมที่สามารถบริหารและรองรับได้กับทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง workstation, servers, mobile รวมไปถึงระบบอีเมลอย่าง Microsoft Exchange พร้อมทั้งรองรับระบบปฏิบัติการณ์ Windows, Linux, MAC ได้ทั้งเครื่องในรูปแบบ Physical และ Virtual environment
Bitdefender รองรับการทำงานในรูปแบบ multi-layer management ภายใต้ระบบการจัดการจากส่วนกลาง สำหรับการบริหารจัดการเครื่องอื่นๆในสาขา รวมทั้งการรองรับการทำงานของผู้ใช้งานได้ในหลายๆระดับ
คุ้มค่ากับการใช้งาน Bitdefender นำเสนอระบบการจัดการในรูปแบบ Cloud. ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำการติดตั้ง หรือเตรียมเครื่อง server เพื่อใช้ในการบริหารจัดการ อย่างไรก็ตาม Bitdefender ก็ยังสามารถรองรับการติดตั้งระบบบริหารจัดการได้ที่บริษัทของลูกค้า ในกรณีที่ไม่ต้องการใช้งานโซลูชั่น Cloud และ ไม่จำเป็นต้องใช้ ไลเซนส์ของระบบปฏิบัติการณ์ เพราะเป็นการทำงานในรูปแบบของ Virtualappliance ภายใตระบบปฎิบัติการ Linux และฐานข้อมูลที่แถมมาให้ใช้งานฟรี และรองรับปริมาณผู้ใช้งานได้โดยไม่จำกัด
เป็นโซลูชันแบบ All in one ที่มีการป้องกัน และการจัดการรวมอยู่ด้วยกัน สําหรับเครื่องที่เป็น เวิร์กสเตชัน, เซิร์ฟเวอร์, อีเมลและอุปกรณ์เคลื่อนที่ (mobile devices) เหมาะสําหรับองค์กรธุรกิจระดับกลางที่กําลังมองหาการปกป้องที่ครอบคลุม
เป็นโซลูชัน Antivirus Next-gen แบบหลายชั้นที่เพิ่มการป้องกันการตรวจจับ Roll Back และมีการควมคุมภายใน Console Management เดียว เพื่อปกป้องการคุกคามจากการโจมตีไซเบอร์ที่มีความซับซ้อนสูง ที่สามารถหลบเลี่ยง Antivirus รูปแบบเดิมๆ GravityZone Elite เพิ่มวิธีการป้องกันแบบหลายชั้น ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ใช้ Signature รวมทั้ง Advanced Machine Learning การวิเคราะห์พฤติกรรมขั้นสูง การป้องกันการบุกรุก และทําการร่วมกับ Sandbox ที่มีการปกป้องที่เหนือกว่า
เป็นโซลูชันการรักษาความปลอดภัยแบบ Endpoint Security ที่สมบูรณ์แบบซึ่งได้รับการออกแบบมาจาก พื้นฐาน โดยรวมการป้องกันความสามารถแบบ แบบ Next-Gen EPP (Next-gen Endpoint) และแพลตฟอร์ม EDR (Endpoint Detection and Response) ที่ใช้งานง่าย เข้ามาไว้ด้วยกัน ด้วยการใช้งานแบบ Cloud Console เพื่อปกป้ององค์กรจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อน มากยิ่งขึ้น มอบการป้องกันการตรวจจับภัยคุกคามที่หลากหลาย มีเครื่องมือป้องกันและการตอบสนองโดยอัตโนมัติ การมองเห็นการโจมตี ทั้งก่อนและหลัง พร้อมด้วยการแจ้งเตือน การตรวจสอบ การสืบสวน การค้นหาขั้นสูง และความสามารถในการแก้ปัญหาด้วยเพียงคลิกเดียว เพื่อให้ลูกค้าองค์กรสามารถปกป้องภัยคุกคามเหล่านี้ได้ อย่างทันท่วงที
ยืดหยุ่นในการเลือกใช้ไลเซ่นส์ให้พอดีต่อความจําเป็นในการป้องกันขององค์กร ดาต้าเซ็นเตอร์และ Public Cloud ระบบความปลอดภัยจะถูกส่งออกจากระบบเสมือนไปติดตั้งแบบ on-premise รวมทั้งเครื่องปลายทางทั้งหมด GravityZone Enterprise Security เป็นโซลูชันที่ยืดหยุ่นเหมาะสําหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใช้ระบบเสมือน